วันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ขุมทรัพย์ความคิด



                                                                                      ขุมทรัพย์ความคิด


                                                  
1. เงินออมเพื่อการลงทุน
ประหยัดอดออมวันละนิดเพื่ออนาคตที่ดีวันข้างหน้าเพื่อความสำเร็จได้ดั้งที่ตั้งใจ
จาก      1 เป็น 10
จาก      10เป็น100
จาก     100เป็น1000
จาก     1000เป็น10000
จาก   น้อย เป็น มาก
จากอดออม เป็น ธุรกิจยิ่งใหญ่
          การที่นักธุรกิจชาวจีนที่ร่ำรวยอย่างมหาศาล ทั้งที่จากบ้านเกิดเมืองนอนมาตัวเปล่า มีเพียงเสื้อผืนหมอนใบเอาไว้หลับนอนเป็นเพราะพวกเขามีความคิดที่จะสร้างเนื้อสร้างตัวให้ได้ ด้วยความมีมานะ อดทน ขยันขันแข็งและรู้จักการอดออมในช่วงเวลาที่ยากลำบาก พวกเขารู้ตัวว่าไม่ได้มีทรัพย์สินใดที่จะแปรค่าเป็นตัวเงินได้ จะมีก็เพียงแรงกายและแรงสมองกับสองมือที่ต้องทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อการเริ่มต้น
          ด้วยความกลัวจนให้พวกเขาทำงานทุกอย่าง หนักเบาเอาสู้อดออมเงินที่หามาอย่างยากลำบาก ไม่ใช้ต้องคำนึงถึงประโยชน์ที่จะได้จากสิ่งของเหล่านั้นเสียก่อนถึงตัดสินใจซื้อนั้นเป็นอีกวิธีหนึ่งในการเหนี่ยวรั้งความอยากตัวการในการเสียเงิน เพื่อที่พวกเขาจะได้มีเงินเก็บเพิ่มมากขึ้น พร้อมสำหรับการลงทุนสร้างเนื้อสร้างตัวในวันหนึ่งข้างหน้า
          ชาวจีนเห็นคุณค่าของเงินทุกบาททุกสตางค์ว่ากว่าจะหามาได้ยากลำบากแค่ไหน โดยเฉพาะผู้ที่กำลังเริ่มสร้างเนื้อสร้างตัวจากการไม่มีอะไรเลย ย่อมห่วงแหนเงินยิ่งกว่าอะไร หากต้องเสียเงินซื้อสิ่งที่ได้กลับคืนมาต้องคุ้มค่ากับคุณค่าของเงินที่เสียไป
         แม้ต้องการประหยัดออมมากแค่ไหนแต่พวกเขายังเป็นปุถุชนคนธรรมดาที่มีความต้องการ ในใจลึกๆ ของพวกเขาก็มีความต้องการซื้อสิ่งของที่ตนเองชอบ อยากได้ อยากมีบ้าง แต่พวกเขาเลือกที่จะไม่ซื้อมันเพียงเพราะเหตุผลที่ตนเองอยากได้เท่านั้น การเลือกซื้อของแต่ละอย่างของชาวจีน ต้องคำนึงถึงประโยชน์ที่ได้รับต่อคนในครอบครัว  ไม่ใช่มีประโยชน์ต่อเขาเพียงคนเดียว เมื่อเห็นสมควรว่าซื้อมาแล้ว มันมีประโยชน์ต่อทุกคนในครอบครัว  ถึงตัดสินใจซื้อเพื่อให้คนในครอบครัวได้ใช้ร่วมกัน
         เมื่อชาวจีนอดออมเงินได้ในจำนวนหนึ่ง เพียงพอสำหรับการลุงทุนทำธุรกิจของตนเอง  โดยไม่ต้องไปกู้หนี้ยืมสิ้นของใครมาใช้  เพื่อจะได้ไม่มีปัญหาหนี้มากวนใจทีหลัง เมื่อนั้นชาวจีนจะลุงทุนทำธุรกิจเป็นของตนเองแลละขยับขยายใหญ่โตทีละเล็กทีละน้อย  แต่มั่นคงและประสบความสำเร็จอย่างเช่นทุกวันนี้

        หากคุณสามารถต่อราคาสิ้นค้าให้ได้ส่วนลดเพียง 1 บาท ก็เท่ากับว่าคุณมีเงินออมเพิ่มมากขึ้นอีก1 บาท
    


2. อยากรวยต้องต้องเป็นนายตนเอง

เป็นผู้นำตนเอง…..ดีกว่าให้คนอื่นจูงจมูกชี้นิ้วใช้ทำงาน
          ชาวจีนต้องการเป็นนายของตนเองและไม่ต้องการเป็นลูกจ้างใคร เพราะพวกเขามองแล้วว่า  พวกเขาจะไม่สามารถประสบความสำเร็จได้เลยหากยังเป็นลูกจ้าง ฉะนั้น พวกเขายอมลำบากเก็บออมเงิน เพื่อทำธุรกิจของตนเองแม้ลำบากในช่วงเริ่มต้นแต่บั้นปลายแล้วพวกเขาจะสุขสบายอย่างแน่นอน ดังสุภาษิตจีนที่ว่า  วันนี้ยอมลำบาก  แต่วันหน้ารอวันรวย
          ชาวจีนถือคติที่ว่า ถ้าอยากประสบความสำเร็จในชีวิตและร่ำรวยแล้ว คนๆนั้นต้องไม่เป็นลูกจ้างใคร  คนๆนั้นต้องรู้จักเป็นนายของตนเอง สร้างเนื้อสร้างตัวจากธุรกิจของตนเองเท่านั้น ไม่เช่นนั้นก็ไมมีวันที่จะประสบความสำเร็จและร่ำรวยขึ้นมาได้ เพราะแรงกายที่ลงทุนทำงานให้ในจ้างไปในแต่ละวันหรือแต่ละเดือนนั้น ไม่สามารถสร้างกำไรให้งอกเงยทวีคุณได้เลยนอกจากเงินรายได้ที่เท่าเดิมในทุกเดือนหรืออาจจะเพิ่มมากขึ้นแต่ก็ไม่เท่ากับกำไรจากการทำธุรกิจของตนเอง
          ช่วงแรกที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานในต่างแดน ชาวจีนไม่สามารถปฏิเสธการมีในจ้างได้เพราะพวกเขายังต้องทำงานหาเงินเพื่อเก็บออมเอาไว้ใช้ในการลงทุน เนื่องจากเงินที่ยังมีไม่พอสำหรับการลงทุนแต่เมื่อทำงานไปได้สักระยะเวลาหนึ่ง จากการอดออมทำให้มีเงินมากพอสำหรับการเริ่มต้นในกิจการค้าขายที่พวกเขามองแล้วว่า สามารถสร้างกำไรและทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น พวกเขาก็จะเริ่มต้นลงทุนทันที
              ชาวจีนยอมลำบากสำหรับการเริ่มต้นทำธุรกิจหรือกิจการค้าขายของตนเองยอมลำบาก ยอมทำงานหนักและใช้ความขยันขันแข็งและความอดทดต่อสู้กับความยากลำบากทั้งกายใจต่อสู้กับอุปสรรคต่างจนสามารถผ่านความยากลำบากและอุปสรรคมาได้เมื่อผ่านมันมาได้นั้นแปลว่าพวกเขาประสบความสำเร็จในชีวิตเรียบร้อยแล้ว
            หลายคนอาจคิดว่าการได้ทำงานเป็นพนักงานในบริษัทใหญ่โตใส่สูทผูกไทแต่งตัวสวยๆไปทำงานทุกวันมีเงินเดือนหลายหมื่นเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจแต่สำหรับชาวจีนแล้วพวกเขาไม่เกิดความภาคภูมิใจแบบนั้นเลยเพราะว่าจะมีเงินเดือนเยอะแต่งตัวดูดีไปทำงานทุกวันยังไงก็ยังเรียกว่าลูกจ้างต้องเข้าไปทำงานก้มหัวให้กับนายจ้างเรียกใช้อยู่ตลอดเวลา ชาวจีนยอมแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าธรรมดาไม่ต้องหรูหราหรือราคาแพงอะไร แต่เป็นเจ้าของกิจการเล็กๆเช่น รถเข็นขายโจ๊ก แผงลอยขายขนมข้างทางหรือร้านขายของในห้องเช่ายังดีเสียกว่าเพราะมันมันคืองานที่พวกเขาไม่ต้องก้มหัวให้นายจ้างกดขี่หรือเรียกใช้ไปวันๆโดยมองไม่เห็นอนาคตที่จะประสบความสำเร็จเลยแม้แต่น้อย   การเป็นเจ้าของกิจการของตนเองนั้นชาวจีนจะทำเป็นกิจการเล็กๆตามเงินทุนที่มีแล้วค่อยๆขยายให้ใหญ่ขึ้นตามลำดับ

    ถ้าคุณมีโอกาสได้เห็นพ่อค้าแม่ค้าคนจีนนั่งนับเงิน หลังจากที่ขายโจ๊กหมดหม้อแล้ว คุณจะรู้ว่ามันมีความสุขกว่าการที่คุณนั่งเฝ้ารอให้ถึงสิ้นเดือนเร็วๆเพื่อจะได้มีเงินเอาไว้ใช้ตลอดทั้งเดือน




3.จงมีฝันและทำตามฝัน
หากเพียงมีความพยายามที่จะทำตามฝัน ความฝันก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม

           ชาวจีนเชื่อว่าคนที่มีความฝันไม่ใช่คนเพ้อแต่เป็นคนที่คิดการใหญ่เพื่อที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตไม่ว่าความฝันนั้นจะดูเหลือเชื่อและยากเกินไปที่จะทำได้ในสายตาคนอื่น ทว่าชาวจีนยึดหลักของภาษิตจีนที่ได้กล่าวไว้ว่า  ภายใต้ฟ้าไม่มีสิ่งใดยาก สำหลับผู้มีใจพากเพียรและแน่นอนว่านั้นทำให้พวกเขามีความฝันและทำให้มันเป็นจริงขึ้นมาได้
            ชาวจีนมีความฝันอย่างเช่นคนอื่นทั่วไป ฝันจะประสบความสำเร็จ ทว่าพวกเขาไม่ใช่นักฝันธรรมดาแต่เป็นนักฝันที่สามารถให้ฝันกลายเป็นจริงขึ้นมาได้ การเริ่มจากศูนย์สู่จุดสูงสุดของชีวิตที่ใครหลายคนอาจทำไม่ได้แต่ชาวจีนสามารถทำได้และทำมันออกมาได้อย่างประสบความสำเร็จ ซึ่งได้รับการยกย่องจากคนทั่วทุกมุมโลกถึงความสามารถนี้
             ความฝันคือการคิดการใหญ่แต่ไม่ใช่การคิดเกินตัว มันเป็นการคิดที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตต่างหาก เมื่อคิดฝันเอาไว้แล้วพวกเขาก็ไม่ได้ปล่อยให้เป็นความฝันลมๆแล้งๆเพราะพวกเขาใช้ความพยายามที่มี  ความอดทน ความมุ่งมั่น ที่ไม่ย่อท้อต่ออะไรทั้งสิ้นฝ่าฟันความฝันนั้นเป็นจริงขึ้นมาได้
            หากความฝันของชาวจีนคนหนึ่ง คือการมีภัตตาคารเป็นของตนเอง พวกเขาก็เริ่มต้นจากเรือคันเล็กเข็นไปทั่วตรอกซอยและข้างถนนจากเช้ามืดยันเย็นค่ำ จนขยายกิจการใหญ่โตเป็นภัตตาคารหรูมีลุกค้ามาอุดหนุนไม่ขาดสายตลอดทั้งวันตลอดปีนั้นเพราะพวกเขามีฝันทำมันได้สำเร็จ    ชาวจีนเชื่อว่าชาวจีนทุกแห่งหนของโลกใบนี้  ไม่มีสิ่งใดที่พวกเขาจะทำไม่ได้  ถ้าหากพวกเขาจะลงมือทำมัน
           ทุกความฝันของชาวจีนเริ่มต้นด้วยสิ่งเล็กๆน้อยๆที่ความสามารถในตอนนั้นของตนจะทำได้ เช่น  แผงลอยเล็กๆ ริมทาง  รถเข็นขายของตามตรอกซอย  กำไรที่ได้เก็บออมเอาไว้ไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย  เมื่อได้เงินก้อนหนึ่งที่มากพอแล้ว  พวกเขาก็จะขยายกิจการเล็กๆ ให้ใหญ่ขึ้นมาอีกนิด เช่นซื้อตึกแถวไว้เป็นร้านขายของ จะได้ไม่ต้องเดินขายและเพิ่มพื้นที่ขายของได้มากขึ้นอีกด้วย  เมื่อขายของได้มากขึ้นเงินเก็บมากขึ้น  พวกเขาก็จะมองหาตึกแถวที่อยู่ในทำเลที่ดีกว่าเดิม มีคนอยู่อาศัยเยอะๆ หรือตึกแถวหน้าถนนใหญ่ที่มีผู้คนสัญจรผ่านไปมาตลอดทั้งวัน เป็นการขยายกิจการให้ใหญ่ขึ้นและเพิ่มลูกค้าให้มีมากขึ้น  จนกระทั่งกลายเป็นกิจการร้านค้าที่มีขนาดใหญ่สมกับที่ได้ตั้งความฝันเอาไว้ เมื่อครั้งที่เริ่มต้นลงทุนด้วยเงินอันน้อยนิด

ทุกคนมีความฝันเป็นของตนเอง  ไม่ว่าคุณหรือใคร  ทุกฝันเป็นความจริงได้  เพียงแค่ลงมือทำ


4.เดินไปข้างหน้าสู้ความรุ่งเรือง
อย่าจมปลักอยู่กับที่หากต้องการความเจริญรุ่งเรื่องและความสำเร็จ
                 ชาวจีนเป็นชนชาติที่ชอบมองการณ์ไกล  มีความเชื่อมั่นว่า ไม่ว่าพวกเขาจะย้ายถิ่นฐานไปตั้งรากอยู่แห่งไหนบนโลก พวกเขาจะพบความสำเร็จบนแห่งหนนั้นเสมอ
                 ไม่มีดินแดนไหนที่ชาวจีนไม่เคยสัมผัส พวกเขาเป็นนักแสวงโชคและนักฉวยโอกาสจากทุกโอกาสที่มี พวกเขาเดินทางจากถิ่นฐานบ้านเกิดเพื่อไปแสวงหาความสำเร็จ  ไม่มีแห่งหนใดที่ทำให้พวกเขานึกกลัวจนไม่กล้าไปปักหลักเริ่มต้นสร้างความสำเร็จ จะเห็นได้จากพื้นที่ต่างๆทั่วทุกมุมโลกมีชนชาติจีนเข้าไปปักหลักค้าขาย ไม่ว่าตรงไหนก็จะมีชุมชนค้าขายของชาวจีนอยู่เสมอ และพวกเขามักจะอยู่กันเป็นกลุ่มก้อนที่แข็งแรงและมีสมาคมที่แน่นแพ้นคอยช่วยเหลืออาศัยซึ่งกันและกัน   ในฐานะคนชนชาติเดียวกัน
              ด้วยการเป็นนักมองการไกล  มีสายตาที่ชอบมองการณ์ไกลทำให้ชาวจีนมองไปยังแห่งหนใดบนโลกก็กลายเป็นสถานที่ที่ทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จได้เสมอ ดังภาษิตจีนที่กล่าวไว้ว่า  ทั่วปฐวีสถานมีขุมทรัพย์ เพียงแต่รอผู้มีวาสนาค้นพบ
          พวกเขาเชื่อว่าพื้นดินทุกหนแห่งเป็นพื้นดินแผ่นเดียวกันสามารถสร้างความเจริญก้าวหน้าให้พวกเขาได้เสมอไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนของโลก  ต่อให้ไม่มีอะไรติดตัวไปพวกเขานอกจากเสื่อผืนหมอนใบ  พวกเขาก็สามารถสร้างสิ่งที่มากกว่านั้นได้ด้วยสองมือของตัวเองในดินแดนแห่งนั้น
           ชาวจีนไม่เคยหยุดนิ่งอยู่กับที่   เพื่อความสำเร็จที่พวกเขาได้วางแผนเอาไว้  เพื่อสร้างฐานะไว้ให้ลูกหลานได้สบาย  ไม่ต้องลำบากเริ่มจากศูนย์ดังพวกเขา   ชาวจีนจึงต้องการสร้างรากฐานที่แข็งแรงให้กับครอบครัว   ด้วยการขยายกิจการค้าขายของตนไปยังที่ต่างๆ ทีละเล็กทีละน้อย  เพื่อสร้างความมั่นคงทางการค้าเป็นมรดกทอดไปถึงลูกหลาน   ให้มีกิจการของตนเองไว้เลี้ยงชีพในอนาคตต่อไป  พวกเขาจะได้นอนได้อย่างสนิทหมดห่วงว่าลูกหลานจะลำบาก   หากไม่มีพวกเขาสักคน
           ดังนั้นเราจึงจะเห็นได้ว่าธุรกิจการค้าขายของชาวจีนนั้นราวกับต้นไม้ใหญ่  ที่แตกกิ่งก้านสาขาเติบโตอย่างงดงาม  เหมือนรากแก้วรากแขนงที่รุกล้ำไปทุกแห่งหน  ไม่ว่าจะหันไปทางไหน  พ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นคนจีนและอยู่กันเป็นชุมชนที่เข้มแข็ง

           เมื่อเอ่ยถึง  ยานเยาวราชคุณนึกถึงอะไร เชื่อว่า แหล่งชุมชนชาวจีน     คงเป็นอันดับต้นๆ ที่คุณนึกถึง


5.การเริ่มต้น  คือ  จุดเริ่มต้น

อย่ารอให้โอกาสมาถึงรีบคว้าโอกาสนั้นซะก่อนที่มันจะหลุดไป
             ถ้าวันนี้คุณไม่เริ่มต้น   วันพรุ่งนี้คุณจะไม่มีทางประสบความสำเร็จได้   ดังที่ชาวจีนประสบความสำเร็จอยู่ทุกวันนี้ เพราะว่าพวกเขารู้จักการเริ่มต้น แม้จุดเริ่มต้นจะลำบาก แต่มันคือจุดเริ่มต้นของความสำเร็จ  ดังคำภาษิตของชาวจีนที่ได้กล่าวไว้ว่า
วันนี้เราปลูกต้นไม้ วันต่อไปเราจะมีร่มเงา
             ไม่มีชาวจีนคนไหนที่บอกกับตัวเองว่า  รอให้พวกเขารวยก่อนแล้วจึงค่อยเปิดกิจการเป็นของตนเอง  ในทางตรงกันข้ามชาวจีนจะบอกกับตัวเองเสมอว่า ถึงไม่รวยพวกเขาก็สามารถมีกิจการเป็นของตนเองได้  เพราะพวกเขาจะลงทุนทำกิจการของเขาด้วยเงินที่มีอยู่   แม้ไม่มากแต่มันก็เพียงพอสำหรับการเริ่มสร้างกิจการของตนเอง   โดยไม่ต้องเป็นลูกจ้างอีกต่อไป
             การที่จะมีกิจการเป็นของตนเองนั้น  ไม่จำเป็นต้องรอให้รวยมีเงินเก็บเป็นล้านๆก็ได้   เงินเพียงแค่500บาทของชาวจีน ก็สามารถตั้งแผงลอยเล็กๆ ขายของริมทางเดินได้แล้ว   ของขายที่ใช้เงินลุงทุนไปเพียงแค่500บาท เมื่อขายหมด นั้นก็สามารถให้ได้กำไรกลับคืนมา เพื่อนำไปใช้กับการลงทุนซื้อของมาขายอีกวันพรุ่งนี้
            สมมติว่าเงิน500บาท นำไปซื้อของมาขายได้200บาท แสดงว่าตอนนี้เงินทุนเพิ่มขึ้นอีก200บาท บวกกับเงินทุนเดิมอีก500บาท รวมเป็น700บาท ซึ่งเงินทุน700บาทนี้ นำไปซื้อของมาขายทำกำไรได้อีก400บาท วันนั้นก็จะมีเงินทุนทั้งหมด1100บาท และเป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ    จนกระทั้งเงิน500บาทในวันนั้นกลายมาเป็นเงินหลายสิบล้านในวันนี้
            ในทางตรงกันข้าม  หากคิดว่าเงิน500บาท เป็นเงินน้อยนิดเกินไป ไม่สามารถนำมาใช้ลงทุนอะไรมันได้ หรือลงทุนไปได้กำไรนิดเดียวสู้ทำงานเก็บเงินให้ได้สักล้านหนึ่ง
ก่อนค่อยลาออกจากงานมาทำธุรกิจของตนเอง  แล้วเมื่อไรจะมีเงินถึงล้าน  แล้วเมื่อไรจะประสบความสำเร็จหากเอาแต่รอเวลาเพียงอย่างเดียวแต่ไม่ยอมเริ่มต้น  เพราะชาวจีนไม่ได้คิดแบบนั้น  พวกเขาไม่รอเวลาที่จะลงทุนเพื่อก้าวไปสู้ความฝันของตนเอง  เงินมีน้อย  พวกเขาก็จะลงทุนด้วยเงินจำนวนน้อยนั้นแหละ  แล้วเอากำไรเล็กๆน้อยๆ ที่ได้ในแต่ละวัน มาต่อยอดให้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนกลายเป็นเงินก้อนใหญ่
              ชาวจีนนั้นยึดหลักการสร้างเนื้อสร้างตัวที่ว่า    “ต้องมีกิจการก่อน  ถึงจะร่ำรวยขึ้นมาได้”    ถ้ามั่วแต่รอแล้วจะเอาอะไรมาร่ำรวยได้  แล้วเมื่อไรจะมีกิจการเป็นของตนเองได้   หากหวังให้รวยก่อน
             มันเป็นความจริงที่ว่าเงินก้อนเล็กนั้นย่อมสร้างเงินก้อนใหญ่ขึ้นมาได้เสมอ


 คมกฤช  รัตนไพศาล.ขุมทรัพย์ความคิด. กรุงเทพฯ: เอ็ดดูเคชั่น ไมน์ด ไลน์ มัลติมีเดีย, 2555.
ที่มารูปภาพ  https://www.google.co.th/search?q=
ที่มาวีดีโอ http://www.youtube.com/watch?v=nffl2b9cDtk